ทรงผม Slicked Back วินเทจคลาสสิก หล่อเนี้ยบเหนือกาลเวลา หากพูดถึงทรงผมผู้ชายที่ไม่เคยตกยุค ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย ชื่อของ Slicked Back จะต้องถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ เสมอ ทรงผมที่หวีเสยไปด้านหลังอย่างเนี้ยบกริบนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทรงผมธรรมดา แต่คือสัญลักษณ์ของความเนี้ยบ ความสุขุม และความเป็นสุภาพบุรุษแบบวินเทจที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่ยุค 1920s – 1950s เราจะเห็น Slicked Back ปรากฏอยู่บนศีรษะของนักธุรกิจ นักการเมือง ไปจนถึงนักแสดงระดับตำนานอย่าง James Dean, Marlon Brando หรือ Elvis Presley จนกระทั่งปัจจุบัน ทรงผมนี้ก็ยังคงถูกตีความใหม่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ แต่ยังคงกลิ่นอายคลาสสิกไว้อย่างครบถ้วน
ความหมายของทรงผม Slicked Back ทรงผมผู้ชายที่สะท้อนความภูมิฐาน
Slicked Back คือทรงผมที่เน้นการหวีผมทั้งหมดจากด้านหน้าเสยไปด้านหลังอย่างเรียบเนียน โดยไม่มีปอยผมตกลงมาด้านหน้า จุดเด่นของทรงนี้อยู่ที่ความเนี้ยบ ความสะอาดตา และเส้นสายของศีรษะที่ชัดเจน คำว่า “Slick” หมายถึงความลื่น เรียบ และเป็นเงา ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะการเซ็ตผมที่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์อย่าง Pomade หรือ Gel เพื่อให้ผมอยู่ทรงและดูเป็นมันเงา ส่วน “Back” คือทิศทางของผมที่ถูกหวีไปด้านหลังทั้งหมด ในเวอร์ชันวินเทจ Slicked Back จะไม่ใช่การตัดสั้นเกรียนด้านข้างแบบเฟดจัด ๆ แต่จะเน้นการไล่ความยาวอย่างนุ่มนวล (Taper / Classic Fade) เพื่อคงความสุภาพและความคลาสสิกไว้ให้มากที่สุด
การแบ่งช่อผม (Sectioning) สำหรับทรงผม Slicked Back เสน่ห์แบบสุภาพบุรุษตัวจริง
การตัด Slicked Back ให้สวย ไม่สามารถข้ามขั้นตอนการแบ่งช่อผม (Sectioning) ได้ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญของความสมดุลทั้งศีรษะ
- ช่อด้านบน (Top Section) เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ต้องเก็บความยาวให้เพียงพอสำหรับการหวีเสยไปด้านหลัง โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 8–12 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับรูปหน้าและลักษณะเส้นผม
- ช่อด้านข้าง (Side Section) แบ่งออกเป็นซ้ายและขวา เน้นการไล่ระดับให้กลืนกับด้านบน ไม่ควรตัดขาดจนเกินไป เพราะจะทำให้เสียอารมณ์วินเทจ
- ช่อด้านหลัง (Back Section) ต้องตัดให้รับกับแนวท้ายทอย ไล่ความยาวอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อให้การหวีเสยดูไหลลื่น
ขั้นตอนการตัดผมทรงผม Slicked Back
1. การเตรียมผม
- สระผมให้สะอาด
- เป่าผมให้หมาด ไม่แห้งจนเกินไป
- หวีผมไปตามทิศทางธรรมชาติ
2. ตัดช่อด้านบน เริ่มจาก Top Section ใช้เทคนิค Scissor Over Finger เพื่อควบคุมความยาว
- ตัดตามแนวเสยไปด้านหลัง
- รักษาความยาวให้ต่อเนื่อง
- อย่าตัดบางเกินไป เพราะจะเซ็ตยาก
3. ตัดด้านข้าง ใช้เทคนิค Scissor Over Comb หรือ Clipper + Comb
- ไล่ระดับจากสั้นไปยาว
- ไม่ควรเฟดสูงเกินไป
- รักษาแนวคลาสสิก
4. ตัดด้านหลัง
- เก็บแนวท้ายทอยให้สะอาด
- ไล่ความยาวให้กลืนกับด้านบน
- ตรวจสอบความสมดุลซ้าย–ขวา
5. ตรวจทรงและแก้ไขรายละเอียด
- หวีผมเสยไปด้านหลัง
- เช็กน้ำหนักผม
- เก็บปลายที่ชี้หรือแตก
ทรงผม Slicked Back เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ชายวัยทำงาน ช่วยเสริมลุคสุภาพ น่าเชื่อถือ เหมาะกับออฟฟิศ ธุรกิจ หรือการพบลูกค้า
- ผู้ชายที่มีบุคลิกสุขุม Slicked Back จะขับบุคลิกความเป็นผู้นำออกมาอย่างชัดเจน
- คนที่มีผมตรงหรือผมหยักศกอ่อน จัดทรงง่าย และเซ็ตได้สวยกว่า
- คนที่ชอบลุควินเทจ คลาสสิก เหมาะมากสำหรับคนที่แต่งตัวแนว Old Money, Gentleman, Smart Casual
องค์ความรู้การตัดทรงผม Slicked Back
การตัด Slicked Back ไม่ใช่แค่การตัดให้สั้น–ยาว แต่ต้องเข้าใจโครงสร้างศีรษะ
สิ่งที่ช่างต้องรู้
- แนวการขึ้นของเส้นผม
- จุดหมุนของศีรษะ (Crown)
- ทิศทางการหวีจริงในชีวิตประจำวัน
ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะ
- Pomade แบบ Oil-based (วินเทจแท้)
- Pomade แบบ Water-based (ล้างง่าย)
เทคนิคเสริม
- เป่าผมก่อนเซ็ตเพื่อเพิ่มวอลุ่ม
- ใช้หวีซี่ถี่เพื่อความเนี้ยบ
- เซ็ตขณะผมหมาดจะได้ผลดีที่สุด
สรุปการตัดทรงผม Slicked Back
Slicked Back เซ็ตสไตล์วินเทจ คือทรงผมผู้ชายที่รวมเอาความคลาสสิก ความภูมิฐาน และความมั่นใจไว้ในทรงเดียว ไม่ว่าจะยุคไหน ทรงนี้ก็ยังคงมีเสน่ห์เฉพาะตัว การตัดให้สวยต้องอาศัยการแบ่งช่อที่แม่นยำ เทคนิคการตัดที่ละเอียด ความเข้าใจในโครงสร้างศีรษะ การเซ็ตผมอย่างถูกวิธี

